บ้านโมเดิร์นทรอปิคอลสไตล์รีสอร์ท เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน

บ้านโมเดิร์นทรอปิคอลสไตล์รีสอร์ท ปัจจุบันมีการแต่งบ้านสไตล์หนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะตอบโจทย์ข้างต้นได้ครบถ้วน แถมยังมีดีไซน์สุดเก๋ โดนใจคนรุ่นใหม่นั่นคือการแต่ง บ้านแนวโมเดิร์นทรอปิคอล

Modern คือ ความทันสมัย ส่วน Tropical คือ เขตร้อนชื้น เมื่อสองคำมารวมกันจึงกลายเป็น การตกแต่งอย่างทันสมัย ในเขตพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น”ซึ่งก็คือการปรับแต่งรูป ลักษณ์ของบ้านให้เหมาะสม กับสภาพอากาศ สอดคล้องกับการอยู่อาศัย โดยจะค่อนข้าง ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในบ้าน และการเล่นแสงจากธรรมชาติ ให้ลอดผ่านเข้ามา ในบ้านแต่พอดี  บ้านจัดสรร

ส่วนบ้านสไตล์รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งในแบบบ้าน ในฝันที่หลายคนอยาก ได้เป็นเจ้าของ ด้วยสไตล์การออกแบบ ที่เน้นการใช้วัสดุ จากธรรมชาติ รายล้อมด้วยพื้นที่ สีเขียวของต้นไม้ จึงทำให้บ้านสไตล์รีสอร์ท มีบรรยากาศร่มรื่นเหมือน ได้พักผ่อนในโรงแรมสวย ๆ รู้สึกผ่อนคลายได้ ทุกวันที่พักอาศัย

บ้านโมเดิร์นทรอปิคอลสไตล์รีสอร์ท

ไอเดียบ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล

สถาปนิกส่วนใหญ่จะ ยอมรับว่าการเริ่มต้นออกแบบ โครงสร้างใดๆ ที่มีภูมิทัศน์มาเป็นส่วนประกอบ จะค่อนข้างยาก เพราะไม่ใช่การนึกภาพของอาคารเท่านั้น แต่ต้องใช้จินตนาการค่อนข้าง มากว่าทำอย่างไรบ้านจะเข้ากัน ได้กับสภาพแวดล้อม ต้นไม้ สระน้ำ ต้องอยู่ตรงไหน เหมือนเช่นโปรเจ็คนี้ที่อยู่ในอินเดีย

สถาปนิกก็ทราบดีถึงความยาก “แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ ทุกครั้งที่ฉันเยี่ยมชมไซต์งาน ฉันจะพกหนังสือเกี่ยวกับสวนทั่วโลกไปด้วย” Hiren Patel ผู้ก่อตั้ง Hiren Patel Architects กล่าว บ้านไร่แบบอินเดียจึงถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ในเขตชานเมืองด้วยสายตาที่ล้ำลึกของนักออกแบบ

ไซต์นี้ตั้งอยู่ในอาเมดาบัด ประเทศอินเดีย จากการสำรวจพบว่ามีต้นสะเดาอยู่รอบๆ แต่พื้นที่ก็ค่อนข้างโล่ง หากมองจากภาพดูภูมิทัศน์ ที่หนาแน่นสวยงามลงตัวหลังงาน เสร็จสิ้นในปัจจุบัน ก็แทบจะเดาไม่ออก เลยว่าที่ดินดั้งเดิม หน้าตาเป็นอย่างไร เพราะ Patel ใช้ความคิดที่เขาสร้างอย่างระมัดระวัง ทั้งในส่วนรอบๆ พื้นที่สีเขียวที่มีอยู่ จังหวะในการจัดตำแหน่ง แต่ละอาคาร ไปจนถึงการเติมองค์ประกอบใหม่ๆ เข้าไปให้บ้านสมบูรณ์แบบ แม้แต่ทะเลสาบก็ถูก สร้างขึ้นใหม่ไม่ใช่ของ เดิมจากธรรมชาติ

บ้านโมเดิร์นทรอปิคอลสไตล์รีสอร์ท

บ้านต้องเรียกว่าเป็น กลุ่มอาคารหลังคาทรงปั้นหยา ออกแบบเป็นกล่องกระจก ที่มีประตูและผนังกระจกสูงจาก พื้นจรดเพดาน วางเป็นจุด ๆ แต่ละหลังมีสวนและสะพาน หรือทางเดินเชื่อมต่อกัน มองเผินๆ เหมือนศาลาไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ สีเขียวกับสระน้ำขนาดใหญ่ มีห้องนอนสี่ห้องสำหรับสมาชิก สามเจเนอเรชัน ห้องพักมีทิวทัศน์ ของทะเลสาปส่วนตัว phuket property

พร้อมวิวของแมกไม้ เขียวขจีในทุกที่ที่มองออกไป ประตูบ้านเปิดออกได้กว้าง ทุกด้านได้รับสายลม และไอเย็นสบายผิวตลอดทั้งวัน ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ใน รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล มากกว่าบ้าน

พื้นที่สาธารณะที่เป็นศาลาแยกเป็นหลัง ๆ

มีที่นั่งสำหรับรองรับคนกลุ่มใหญ่ โดยมีช่องว่าขนาดใหญ่ เชื่อมต่อพื้นที่กลางแจ้ง ที่ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อ การใช้งานพร้อมกัน เพราะครอบครัวมักจะมีแขกมาเยี่ยมเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่บาง วันหลานสาว และคุณยายจะมีเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ แวะมาโดยไม่ได้นัดหมาย แขกต่างกลุ่มก็มี ความเป็นส่วนตัวขึ้น ไม่ต้องพบปะสังสรรค์ หรือใช้พื้นที่เดียวกัน แต่ก็ยังสามารถมอง เห็นกันผ่านผนังกระจกได้

ห้องนอนคงคอนเซ็ป การเปิดวิสัยทัศน์ให้รับความสดชื่น ได้ทั่วทุกทิศทาง และเน้นตกแต่งเพดานให้เป็น จุดโฟกัสสายตาด้วย การติดตั้งฝ้าตามแนวหลังคา เพิ่มเส้นสายของไม้ เข้าไปให้สวยงาม วิธีการทำฝ้าแบบนี้ ช่วยให้รู้สึกถึงพื้นที่ที่สูงโปร่งนอนสบาย แต่ไม่รู้สึกว่าเพดานสูงจนเวิ้งว้าง สำหรับห้องนอน (และทุกห้องของบ้าน) ที่ก่อผนังทึบได้รับคำแนะนำ ให้ใช้กำแพงดินอัด (rammed earth) ซึ่งเหมาะสมกับสภาพ อากาศที่ร้อนชื้น พื้น IPS แบบหล่อ คอนกรีตเย็นสบายเท้า ทำให้การดูแลรักษาไม่ยาก

ห้องน้ำทั้งหมด ค่อนข้างกว้าง จัดให้มีคอร์ทยาร์ด ปลูกต้นไม้สีเขียวที่แสนสดชื่นข้างใน พร้อมฝักบัวอาบน้ำ แบบเปิดโล่งให้ร่างกาย ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ สายลมแสงแดด แต่หากฝนตกหรือ อากาศเย็นก็เปลี่ยนมานอน แช่อ่างอาบน้ำอุ่นๆ ข้างใน เท่านี้บ้านก็เป็นพื้นที่ ความสุขทุกตารางเมตรที่ไม่ต้อง มองหานอกบ้าน

ห้องนั่งเล่นสวยๆ

Rammed Earth หรือผนังดินอัด ในบ้านเราไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในประเทศอื่น ๆ อย่างอินเดียหรือจีนจะ ทราบดีว่าเป็นวัสดุก่อสร้าง ที่ถูกใช้ในการก่อสร้างมาตั้งแต่โบราณ มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,000 ปี สิ่งก่อสร้างแรก ๆ ที่พบคือกำแพงเมือง ผนังดินอัดเกิดจากส่วนผสม 3 ส่วนด้วยกัน คือดิน ซีเมนต์ และน้ำ ผสมจนได้เนื้อดินที่ข้น จากนั้นก็นำไปเทลงบล็อก ที่สร้างไว้ให้แข็งตัว

ก่อนจะใช้เครื่องอัดกระทุ้ง ให้เนื้อดินแน่นสนิท ด้วยแรงความดันสูงสุด ทำให้มีคุณสมบัติค่อนข้างแข็งแรง ดินจะมีการดูดซับความชื้น และคลายออก จึงเหมือน เป็นผนังหายใจได้ ในบ้านเรามีใช้ในโปรเจ็คใหญ่ๆ ที่ต้องการเอกลักษณ์ เช่น อาคารรัฐสภาใหม่ เป็นต้น

ห้องรักแขกโปร่งโล่ง

บ้านสไตล์รีสอร์ทมีลักษณะอย่างไร

เอกลักษณ์ของ บ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ทำให้ใคร หลายคนหลงใหลไป กับเสน่ห์จนอยากมีไว้สักหลัง คือบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ทั้งภายในและภายนอกบริเวณรอบบ้าน ให้ความรู้สึกเสมือนไป พักผ่อนที่โรงแรมหรือ บ้านพักตากอากาศในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้

  1. นำวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน เหล็ก ปูนเปลือย มาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของบ้าน
  2. เน้นการตกแต่งด้วย กระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น และได้ชมวิวสวย ๆ ไปพร้อมกัน
  3. มักออกแบบให้มี เพดานสูงกว่าบ้านทั่วไป ซึ่งนอกจากให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบายแล้ว ยังช่วยระบายความ ร้อนภายในตัวบ้านได้อย่างดีอีกด้วย
  4. รูปแบบของบ้านส่วนใหญ่ เน้นที่ความเรียบง่าย มีขนาดชั้นเดียวหรือ 2 ชั้น
  5. มีพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Air สำหรับนั่งชมวิวบรรยากาศธรรมชาติ เช่น เป็นพื้นที่ชมวิวสวน หรือพื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำ
  6. มีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ ในสวนมาช่วยเติมความร่มรื่นให้บ้าน กลมกลืนไปกับธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่เหมาะ แก่การพักผ่อนเสมือนอยู่ในโรงแรมตากอากาศ
ห้องนอนสวยๆ

บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับใคร

แม้ว่าบ้านสไตล์รีสอร์ทจะ เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถ สร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทได้เสมอไป เนื่องจากมีต้นทุนค่อนข้างสูง และใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เพราะมีจุดเด่นเรื่องพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อน และให้ร่มเงาบดบังแสงแดด ในบริเวณบ้าน หากใครที่มีพื้นที่จำกัดคง ไม่เหมาะกับการสร้าง บ้านสไตล์นี้เท่าไหร่ บ้าน บ้านเดี่ยว บ้านแฝด

นอกจากเรื่องเงินทุน และขนาดพื้นที่แล้ว บ้านสไตล์รีสอร์ทจะเหมาะกับ ทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเขา ชายทะเล ริมแม่น้ำ ทุ่งนา หรือในสวนกว้าง ๆ มากกว่า ด้วยจุดเด่นที่เน้นเรื่องวิวธรรมชาติ เพื่อให้มีบรรยากาศแห่ง การพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หากต้องการสร้าง บ้าน สไตล์รีสอร์ทในเมืองจึงเหมาะกับ บ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้าง ๆ เพื่อให้มีพื้นที่แห่ง การผ่อนคลายสายตา

บทความแนะนำ